คอมแอร์ไม่ทํางานเกิดจากอะไร คอมเพรสเซอร์แอร์ ไม่ทํางาน มีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง

คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางาน คอมแอร์ไม่ทํางาน พัดลมไม่หมุน คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางาน พัดลมไม่หมุน ปัญหาสารพัดเกี่ยวกับคอมแอร์ไม่ทำงาน เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะนั่นหมายความว่าแอร์จะไม่สามารถทำความเย็นได้เลย ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อย ไปจนถึงความผิดปกติของระบบที่ต้องแก้ไขโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ THAIAIRCOOL จะพาไปหาสาเหตุที่ทำให้คอมแอร์ไม่ทำงาน เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกจุด ก่อนตัดสินใจเรียกช่างให้เข้ามาดูแลต่อไป

คอมแอร์ไม่ทํางานเกิดจากอะไร ได้บ้าง?

คอมแอร์ไม่ทำงาน ถือเป็นปัญหาที่หลายบ้านและสำนักงานมักพบเจอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้ง อาการคอมแอร์ไม่ทำงานอาจมีสาเหตุได้หลายประการ ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างไฟตก ฟิวส์ขาด ไปจนถึงปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวกับตัวคอมเพรสเซอร์เอง หากละเลยหรือปล่อยไว้นานอาจทำให้ระบบทำความเย็นเสียหายมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงกว่าเดิม การรู้สาเหตุเบื้องต้นจึงช่วยให้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

คอมแอร์ไม่ทํางาน พัดลมไม่หมุน เพราะปัญหาระบบไฟฟ้า

อาจเกิดจากเบรกเกอร์แอร์ตก ซึ่งเป็นการตัดไฟอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหาย หรือ ปลั๊กไฟหลวมและสายไฟชำรุด รวมถึงการที่แผงวงจรควบคุมเสียหาย จนไม่สามารถส่งคำสั่งให้คอมเพรสเซอร์ทำงานได้

คอมแอร์ไม่ทํางานสาเหตุจากระบบความร้อนมีปัญหา

หากพัดลมคอยล์ร้อนไม่ทำงาน หรือแผงคอยล์ร้อนสกปรกมาก จนขัดขวางการระบายความร้อน จะทำให้ระบบร้อนจัดและคอมเพรสเซอร์จะไม่ทำงานเพื่อป้องกันตัวเองจากความเสียหาย

คอมแอร์ไม่ทํางานเพราะน้ำยาแอร์ขาดหรือรั่ว

หากน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอหรือมีการรั่วซึม จะทำให้แรงดันในระบบต่ำเกินไป เซนเซอร์ความดันจะสั่งให้คอมเพรสเซอร์หยุดการทำงานทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับคอมเพรสเซอร์เอง

คอมแอร์ไม่ทํางานเกิดจากอุปกรณ์ภายในชำรุด

เช่น คาปาซิเตอร์เสียหาย หรือมอเตอร์คอมเพรสเซอร์เสีย จากการทำงานหนักเกินไปหรือการสึกหรอตามอายุการใช้งาน ซึ่งในกรณีนี้จำเป็นต้องให้ช่างมืออาชีพเข้ามาตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่

6 ปัญหายอดฮิตที่ทำให้คอมแอร์ไม่ทำงาน

คอมแอร์ไม่ทำงานเพราะใช้งานหนักเกินไป

การเปิดแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะเปิดอุณหภูมิต่ำมาก ๆ จะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักและทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการพัก ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมสูงและทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็วขึ้น และหากมีการติดตั้งในที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือแผงคอยล์ร้อนสกปรก จะทำให้การระบายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ คอมเพรสเซอร์จะร้อนจัดและอาจทำให้ระบบน็อคได้ เพื่อยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์และระบบแอร์ ควรหลีกเลี่ยงการเปิดใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป และหมั่นทำความสะอาด เช่น ล้างฟิลเตอร์แอร์

คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่หมุนเพราะสตาร์ตเตอร์เสีย

สตาร์ตเตอร์หรือคาปาซิเตอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการสตาร์ทคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ทำงาน หากอุปกรณ์ชิ้นนี้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพ จะส่งผลโดยตรงทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้มีเพียงลมออกมาจากแอร์แต่ไม่มีความเย็น และบางครั้งอาจมีเสียงคลิกดังขึ้นจากตัวคอมเพรสเซอร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าคอมเพรสเซอร์พยายามจะทำงานแต่ไม่สามารถสตาร์ทได้ การแก้ไขในกรณีนี้คือเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ตัวใหม่ ซึ่งควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย 

คอมแอร์ไม่ทำงาน แอร์ไม่เย็นเพราะแผนวงจรเสีย

แผงวงจรควบคุมเป็นเหมือนสมองของเครื่องปรับอากาศ ทำหน้าที่สั่งการให้ทุกส่วนของแอร์ทำงาน สาเหตุที่แผนวงจรเสียอาจเกิดจากมีความชื้นหรือแมลงเข้าไปทำลายวงจร หรือเกิดไฟกระชากอย่างรุนแรง จนทำให้แผงวงจรช็อตและหยุดทำงาน อีกสาเหตุหนึ่งคือเกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ดังนั้น หากคอมแอร์ไม่ทำงานอาจเกิดจากสาเหตุนี้ก็ได้  ควรเรียกช่างให้เข้ามาตรวจสอบดูให้แน่ชัด 

คอมแอร์ไม่ทำงาน มีแต่ลม อาจเกิดจากไฟรั่วหรือโอเวอร์โหลด 

• โอเวอร์โหลด คือสภาวะที่คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินพิกัดที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจเกิดจากน้ำยาแอร์ขาด แผงคอยล์สกปรก หรือพัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติเพื่อสร้างความเย็น
• ไฟรั่ว คือการที่กระแสไฟฟ้าบางส่วนไหลออกจากวงจรไปตามโครงสร้างของตัวเครื่อง ซึ่งอาจเกิดจากฉนวนของสายไฟเสื่อมสภาพ

เมื่อเกิดภาวะโอเวอร์โหลดหรือมีการใช้ไฟเกินกำลังที่กำหนด อุปกรณ์ป้องกันที่ติดตั้งอยู่ในตัวคอมเพรสเซอร์จะตรวจจับได้ว่า อุณหภูมิและความดันภายในสูงเกินไป และจะตัดวงจรการทำงานของคอมเพรสเซอร์โดยอัตโนมัติ ทำให้คอมแอร์ไม่ทำงาน การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องหาต้นเหตุที่แท้จริง  ซึ่งควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

คอมแอร์ไม่ทำงาน แอร์ไม่เย็นเพราะเลือกขนาดแอร์ (BTU) ไม่เหมาะสม

การเลือกขนาด BTU แอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักและคอมแอร์ไม่ทำงานในที่สุด ซึ่งผลกระทบจะแตกต่างกันไปตามกรณีที่เลือก BTU ต่ำหรือสูงเกินไป 

เลือก BTU ต่ำเกินไป

การเลือกแอร์ที่มีค่า BTU ต่ำกว่าขนาดห้องที่แท้จริง จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคอมเพรสเซอร์จะพยายามทำความเย็นให้ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ แต่กำลังไม่เพียงพอที่จะสู้กับปริมาณความร้อนในห้องได้ 

เลือก BTU สูงเกินไป

การเลือกแอร์ที่มีค่า BTU สูงเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะแอร์จะทำความเย็นได้อย่างรวดเร็วมากจนคอมเพรสเซอร์ต้องตัดการทำงานบ่อยครั้ง . การที่คอมเพรสเซอร์ต้องเปิด-ปิดบ่อยๆ จะทำให้เกิดการกระชากไฟในแต่ละครั้งที่เริ่มทำงานใหม่ ซึ่งนอกจากจะสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังส่งผลให้คอมเพรสเซอร์และอะไหล่ภายในสึกหรอเร็วกว่าปกติ

ดังนั้น การคำนวณ BTU ที่เหมาะสมกับห้องจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดพลังงาน และช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์ได้เป็นอย่างดี

คอมแอร์ไม่ทํางานเพราะสายไฟหรือขดลวดภายในคอมขาด

อาการที่คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน อาจมีสาเหตุมาจากสายไฟหรือขดลวดภายในขาด ซึ่ง

เป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดและต้องได้รับการแก้ไขโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากมีกระแสไฟฟ้าเกิน หรือการสึกหรอตามอายุการใช้งาน หากขดลวดภายในคอมเพรสเซอร์ขาด จะทำให้มอเตอร์ไม่สามารถหมุนได้ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์หยุดทำงานโดยสมบูรณ์ ต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่เท่านั้น 

จุดสังเกตสำหรับอาการนี้คือ หากคอมแอร์ไม่ทํางาน แต่พัดลมหมุน หรือก็คือ แอร์เปิดแล้วมีแต่ลมออกมา ไม่มีความเย็น และคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานหรือมีเสียงดังคลิก คล้ายกับพยายามจะสตาร์ทแต่ไม่สำเร็จ อาจเป็นสัญญาณว่าขดลวดภายในมีปัญหา ควรหยุดใช้งานแอร์ทันทีและเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ

ปัญหาคอมแอร์ไม่ทำงานจะหมดไป แค่เลือกใช้บริการ THAIAIRCOOL

จะเห็นได้ว่าปัญหาคอมแอร์ไม่ทำงานมีสาเหตุได้หลากหลาย ซึ่งแต่ละสาเหตุล้วนแต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจจากผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบและแก้ไขอย่างถูกวิธี หากคุณเปิดแอร์แล้วมีแต่ลมออกและไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด ไม่ควรซ่อมแซมด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้ปัญหาบานปลายได้ หากสงสัยว่าคอมแอร์ไม่ทำงาน สามารถติดต่อ THAIAIRCOOL เพื่อให้ช่างทีมงานมืออาชีพของเราเข้าไปตรวจสอบ หาสาเหตุ และแก้ไขปัญหาให้แอร์ของคุณกลับมาเย็นฉ่ำอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)