แอร์มีกลิ่นอับเกิดจากอะไร? หาสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ปัญหาแบบตรงจุด

Table of Contents

แอร์มีกลิ่นอับ ปัญหาอันใหญ่หลวงของผู้ใช้งานเครื่องปรับอากาศ ในบางครั้งเพียงแค่เปิด – ปิดแอร์ก็ส่งผลให้แอร์เหม็นอับได้ กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ อาจทำให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน รบกวนการพักผ่อน รวมไปถึงกลิ่นเหล่านั้นอาจทำให้เสียสุขภาพได้เช่นกัน วันนี้ THAIAIRCOOL มีสาเหตุของปัญหา พร้อมวิธีแก้ไขแอร์ส่งกลิ่นเหม็นมาฝาก ทำตามนี้กลิ่นหายแน่นอน

สาเหตุหลักที่ทำให้แอร์เหม็นอับเมื่อเปิดใช้งาน

สาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่นอับ หลัก ๆ แล้วมักเกิดจากความชื้นสะสมที่สะสมมานานจนเกิดเป็นเชื้อรา และแบคทีเรียภายในระบบเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะความชื้นที่เกิดจากส่วนคอยล์เย็น ท่อระบายน้ำทิ้ง ที่ไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดหรือเกิดจากการติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเปิดแอร์จะส่งผลให้มีกลิ่นออกมาขณะเปิด หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์อาจเกิดจากการสะสมของฝุ่น สัตว์ตัวเล็ก ๆ ขับถ่ายไว้จนทำให้แอร์เหม็นเปรี้ยว แน่นอนว่าสาเหตุเหล่านี้อันตรายมากกว่าแค่การทำให้แอร์เหม็น หรือการได้รับกลิ่น เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ในอนาคต

แอร์เหม็นเปรี้ยว เหม็นอับ เกิดจากส่วนใดในระบบแอร์

เปิดแอร์แล้วมีกลิ่นอับ ปัจจัยหลัก ๆ ล้วนเกิดจากการสะสมของความชื้นจนเกิดเป็นเชื้อรา แบคทีเรียต่าง ๆ ในระบบแอร์ โดยเฉพาะในส่วนที่ยากต่อการระบายอากาศ ยากต่อการทำความสะอาด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แอร์มีกลิ่นอับ ตอนเปิด ซึ่งส่วนที่ทำให้เกิดกลิ่นอับได้ง่ายในระบบแอร์ มีดังนี้

  • ส่วนคอยล์เย็น : ความชื้นสะสมที่ถูกปล่อยออกมาระหว่างการทำความเย็นจนเกิดเป็นเชื้อรา แบคทีเรีย ทำให้แอร์มีกลิ่นอับ
  • ถาดรองน้ำทิ้ง : หากบริเวณถาดรองน้ำทิ้งมีน้ำขังสะสม อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
  • ท่อน้ำทิ้ง : เมื่อท่อน้ำทิ้งเกิดการอุดตัน มีคาบสกปรก ก็ส่งผลให้แอร์เหม็นอับตอนเปิดได้เช่นเดียวกัน
  • ท่อส่งลมและพัดลม : หากมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ เกาะอยู่ จะทำให้เกิดกลิ่นทุกครั้งเมื่อเปิดแอร์

7 วิธีแก้ปัญหาเปิดแอร์แล้วมีกลิ่นอับ ได้ผลจริงแบบมืออาชีพ

เมื่อทราบถึงที่มาของปัญหาแอร์มีกลิ่นอับแล้ว การแก้ปัญหาก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน หากปล่อยให้กลิ่นอับยังรบกวนใจอยู่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะเชื้อราเป็นส่วนที่มีขนาดเล็กมาก เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องระบบทางเดินหายใจในระยะยาว THAIAIRCOOL มีวิธีแก้ปัญหาเปิดแอร์แล้วมีกลิ่นอับง่าย ๆ ขั้นตอนมีดังนี้

1. เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอดี

การเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ คือ การเปิดแอร์ในช่วงอุณหภูมิ 25 – 27 องศาเซลเซียส ซึ่งการเปิดแอร์ในช่วงอุณหภูมิดังกล่าวช่วยป้องกันการเกิดความชื้นสะสมจนเป็นเชื้อราและแบคทีเรียได้ แต่ถ้าหากแอร์มีกลิ่นอับอยู่แล้ว วิธีนี้จะไม่ได้มีส่วนช่วยมากนัก สิ่งที่การปรับอุณหภูมิพอช่วยได้คือการช่วยลดความชื้นที่เป็นเหตุหลักของปัญหาแอร์มีกลิ่นเปรี้ยว ช่วยให้แอร์ไม่ทำงานหนักจนมีน้ำสะสมมากในคอยล์เย็นที่เป็นเหตุให้เกิดเชื้อราได้เช่นกัน

2. ล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

เมื่อมีการติดตั้งแอร์แล้ว การล้างทำความสะอาดแอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ ควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง วิธีนี้เป็นวิธีแก้แอร์มีกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการล้างแอร์สามารถช่วยกำจัดกลิ่น กำจัดเชื้อรา แบคทีเรียที่เป็นปัญหาหลักได้เป็นอย่างดี รวมถึงการล้างแอร์ยังกำจัดคราบฝุ่น คราบสกปรกสะสมส่วนต่าง ๆ ของระบบแอร์ทั้งคอยล์เย็น แผ่นกรอง ถาดน้ำทิ้งให้สะอาดเหมือนใหม่ สามารถติดต่อบริการล้างแอร์อย่างมีคุณภาพได้ที่ THAIAIRCOOL 

3. ทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์สม่ำเสมอ

ฟิลเตอร์กรองแอร์เป็นส่วนแรกในการกรองเศษฝุ่น ละอองฝุ่น สิ่งสกปรกในอากาศต่าง ๆ ที่เมื่อปล่อยไว้ในระยะเวลานานจะทำให้แอร์มีกลิ่นอับ หากล้างทำความสะอาดฟิลเตอร์กรองแอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่เกิดจากสิ่งสกปรกในอากาศ ข้อดีของการทำความสะอาดฟิลเตอร์ คือ

  • เพิ่มคุณภาพของการไหลผ่านอากาศในระบบ
  • ช่วยให้แอร์เย็นเร็วขึ้น ประหยัดพลังงาน
  • ป้องกันการสะสมเชื้อโรคที่ระบบแอร์
  • ลดกลิ่นแอร์เหม็นอับต่าง ๆ ลดกลิ่นสะสมในอากาศ

4. เปิดระบายอากาศก่อนเปิดแอร์

ห้องที่มีการปิดทึบแน่นหนา ไม่มีช่องสำหรับระบายอากาศ เมื่อปิดทิ้งไว้นาน ๆ ส่งผลให้เกิดเป็นกลิ่นอับสะสมขึ้นได้ การเปิดประตูหรือหน้าต่างก่อนทำการเปิดเครื่องปรับอากาศจะสามารถช่วยลดกลิ่นอับจากเฟอร์นิเจอร์ ไล่ความชื้นส่วนเกินภายในห้อง กำจัดเชื้อราในอากาศได้ เมื่อเปิดแอร์จะช่วยให้อากาศที่ออกมาสดชื่นขึ้น 

5. ลดความชื้นก่อนเปิดแอร์

การลดความชื้นในห้องก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยลดกลิ่นอับขณะเปิดแอร์ได้ เพราะความชื้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เชื้อรา แบคทีเรียเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลให้แอร์มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ วิธีการลดกลิ่นอับในแอร์ สามารถทำได้ ดังนี้

  • เปิดหน้าต่างหรือประตูห้องให้อากาศถ่ายเทสะดวกประมาณ 20 นาทีก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ
  • หากบริเวณนั้น ๆ มีความชื้นสูงมากสามารถใช้เครื่องลดความชื้นได้
  • ไม่ควรตากผ้าที่มีความชื้นในห้องแอร์ เช่น ผ้าเช็ดตัว
  • ทำความสะอาดห้องให้โล่งมากที่สุด

6. เลือกขนาดแอร์ให้เหมาะสมกับห้อง

การเลือกขนาดแอร์เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สามารถช่วยลดความชื้นในอากาศได้ เมื่อเลือกขนาด BTU แอร์ต่ำ ภายในห้องจะมีกลิ่นอับ เกิดความชื้นสะสม ระบบภายในแอร์อาจมีน้ำขังจนเกิดเป็นเชื้อราและแบคทีเรียได้ หากเลือกขนาด BTU สูงกว่าปกติ อากาศจะเย็นเร็วจนเกิดความชื้น ส่งกลิ่นเหม็นอับ เมื่อแอร์เย็นเร็วระบบตัดไวก่อนที่จะลดความชื้นได้เพียงพอ 

7. ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์บ่อยครั้ง

เฟอร์นิเจอร์ในบ้านจำพวก ที่นอน โซฟา ตู้ เตียง ผ้าม่าน พรม ล้วนเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่กักเก็บฝุ่น กักเก็บความชื้น เชื้อราและแบคทีเรียต่าง ๆ ซึ่งสามารถปล่อยกลิ่นในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศได้ การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์บ่อยครั้งจึงเป็นเรื่องที่ควรทำในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ การดูแลเฟอร์นิเจอร์ช่วยป้องกันแอร์เหม็นแบบทางอ้อมได้ คือ

  • ลดแหล่งการสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย
  • ป้องกันเฟอร์นิเจอร์ดูดซับกลิ่นเมื่อสัมผัสความเย็นหรือความชื้นซ้ำ
  • ช่วยให้ห้องมีความสะอาด ลดการสะสมความชื้น

แอร์มีกลิ่นอับปัญหาที่แก้ไขและหลีกเลี่ยงได้

แอร์มีกลิ่นอับเป็นปัญหาที่ทุกบ้านสามารถประสบพบเจอได้ โดยเฉพาะบ้านที่เปิดแอร์ตลอดทั้งวันด้วยความเย็นจัด แอร์จะยิ่งสะสมความชื้นเอาไว้ภายในจนเกิดเป็นเชื้อรา แบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นอับทั้งหลาย อย่างในช่วงหน้าฝนแนะนำให้เปิดโหมด dry ลดกลิ่นอับ โหมดนี้จะช่วยทั้งลดความชื้นและลดกลิ่นอับได้พร้อม ๆ กัน แต่ยังมีวิธีแก้ไขปัญหาพร้อมวิธีหลีกเลี่ยงอีกหลายวิธี ดังนี้

  • แอร์มีกลิ่นอับ แก้ไขอย่างไร?
    • ล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
    • ทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์อย่างน้อยทุก ๆ 1 – 2 เดือน
    • ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อในระบบแอร์
    • หากมีกลิ่นแรงมากผิดปกติ แนะนำให้ติดต่อช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ
  • วิธีหลีกเลี่ยงแอร์เหม็นเปรี้ยว
    • เปิดประตู-หน้าต่างอย่างน้อย 20 นาทีก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ
    • ลดความชื้นภายในห้องเป็นประจำ
    • เลือกขนาดแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
    • หมั่นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์บ่อยครั้ง

กลิ่นอับแอร์ ส่งผลเสียต่อสุขภาพแบบไม่รู้ตัว!

กลิ่นอับที่เกิดขึ้นในขณะเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศไม่ใช่แค่เพราะส่งกลิ่นรบกวนจมูก แต่ยังบ่งบอกว่ามีเชื้อรา แบคทีเรีย และสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเปิดแอร์แล้วหายใจรับอากาศเข้าไปทุกวัน ๆ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพระยะยาวได้ เช่น ภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง ระคายคอ โรคทางเดินหายใจ รวมไปถึงอาการผิดปกติทางผิวหนัง คันตามผิวหนัง ผื่นขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

แอร์มีกลิ่นอับเป็นปัญหาที่สามารถพบเจอได้บ่อย แต่ก็สามารถแก้ปัญหาและหลีกเลี่ยงได้ กลิ่นอับต่าง ๆ มักเกิดจากความชื้นสะสมในระบบแอร์ จนกลายเป็นเชื้อรา แบคทีเรียอันเป็นปัญหาของแอร์เหม็นอับ หากปล่อยไว้นานไม่ได้เพียงแค่ส่งกลิ่นแต่อาจทำลายสุขภาพในระยะยาวได้เช่นกัน ควรล้างแอร์แบบเต็มระบบอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หากใครมองหาบริการล้างแอร์อย่างมีคุณภาพติดต่อได้ที่ THAIAIRCOOL หรือผ่านช่องทาง LINE Official

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ  แอร์มีกลิ่นอับ

แอร์ล้างแล้วแต่ยังมีกลิ่นอับ ต้องทำยังไง

หากล้างแอร์แล้วยังคงมีกลิ่นอับอยู่ สาเหตุอาจไม่ได้มาจากความชื้นหรือเชื้อรา แต่อาจเกิดจากระบบภายในที่ยากต่อการทำความสะอาด แนะนำควรแจ้งปัญหาดังกล่าวกับช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ

การติดตั้งผิดวิธีมีผลให้แอร์มีกลิ่นอับไหม

การติดตั้งแอร์ผิดวิธีส่งผลให้เกิดกลิ่นอับแน่นอน เช่น การเอียงท่อแอร์ไม่ได้องศาทำให้น้ำสะสมจนเกิดเป็นเชื้อรา หรือการติดตั้งในตำแหน่งที่ระบายอากาศได้ไม่ดีก็ส่งผลให้แอร์มีกลิ่นอับได้เช่นเดียวกัน

ถ้าไม่ได้ล้างแอร์นาน ๆ จะทำให้เกิดกลิ่นใช่ไหม

ใช่ เพราะหากเปิดใช้แอร์นาน ๆ แอร์จะจับฝุ่นละอองเล็ก ๆ สะสมความชื้น เชื้อราต่าง ๆ อยู่ในระบบแอร์ หากสะสมไปนาน ๆ สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มมากขึ้น

ท่อน้ำทิ้งตันมีผลต่อกลิ่นในแอร์ไหม

มีผลแน่นอน เมื่อท่อน้ำทิ้งไม่สามารถระบายน้ำได้จะเกิดน้ำขังบริเวณที่ถาดรองน้ำทิ้ง กลายเป็นเเหล่งสะสมเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรียจำนวนมาก ทำให้แอร์มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา

ล้างแอร์บ่อยเกินไป จะช่วยเรื่องกลิ่นได้จริงไหม

การล้างแอร์บ่อยมากเกินไปไม่ได้ช่วยเรื่องกลิ่นมากกว่าปกติ การล้างแอร์ที่ถูกต้องคือ 6 เดือนครั้งก็เพียงพอต่อการป้องกันกลิ่นและลดการสะสมของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความแนะนํา