
บริษัท โมบิส โซลูชั่น จำกัด
292/6 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม
กรุงเทพมหานคร 10240
บริการของเรา
ติดต่อเรา
-
Line Official
-
E-mail: [email protected]
เปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟเป็นคำถามยอดฮิต โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่ค่าไฟมักพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลายคนอาจเข้าใจว่าแค่ตั้งอุณหภูมิสูงก็เพียงพอ แต่ในความจริงยังมีหลายปัจจัยที่ช่วยเปิดแอร์ให้ประหยัดได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโหมดที่เหมาะสม การเปิดแอร์ร่วมกับพัดลม หรือแม้แต่การดูแลเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวิธีเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟที่สามารถทำได้จริง THAIAIRCOOL มีคำตอบครบทุกมุมมองของการเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดอย่างยั่งยืน
การเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟไม่ใช่แค่การปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้งานและการดูแลรักษาแอร์อย่างถูกวิธี หากต้องการลดค่าไฟในระยะยาวโดยไม่ลดความเย็นสบายในบ้าน เคล็ดลับที่ช่วยเปิดแอร์ประหยัดไฟ มีดังนี้
ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ประมาณ 25–27 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เย็นพอเหมาะและช่วยลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์
การใช้พัดลมร่วมกับแอร์ช่วยให้อากาศไหลเวียนดีขึ้น รู้สึกเย็นไวโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิแอร์ เป็นวิธีประหยัดแอร์ไปในตัว
ไม่ควรเปิดแอร์ทิ้งไว้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ได้มีคนอยู่ในห้อง ควรใช้ฟังก์ชันการตั้งเวลาปิดใช้งานล่วงหน้า
โหมดการใช้งานแอร์เหล่านี้จะช่วยควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติให้ประหยัดไฟโดยไม่รู้สึกอึดอัด
แดดที่ส่องเข้าห้องโดยตรงทำให้ห้องมีอุณหภูมิสูงขึ้น แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น
ฝุ่นสะสมจำนวนมากในแผ่นกรองทำให้ลมไหลเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ควรล้างแผ่นกรองอย่างน้อยทุก 2–4 สัปดาห์
ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบหรือล้างทำความสะอาดแอร์อย่างละเอียดเพื่อให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
เปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะค่าไฟจากการใช้แอร์ทุกรูปแบบถือเป็นต้นทุนหลักของบ้านในช่วงหน้าร้อน วิธีแรกที่ช่วยให้เปิดแอร์แบบประหยัดไฟได้คือการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยควรเปิดที่ 25–27 องศาเซลเซียส ซึ่งเพียงพอสำหรับความเย็นสบายโดยไม่เปลืองพลังงานเกินจำเป็น อีกเทคนิคที่ได้ผลดีคือการเปิดพัดลมร่วมกับแอร์ เพราะจะช่วยกระจายความเย็นได้เร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องเร่งอุณหภูมิให้ต่ำลง นอกจากนี้ควรใช้โหมดประหยัดพลังงาน เช่น Eco Mode หรือ Sleep Mode โดยเฉพาะเวลากลางคืนร่วมด้วย เพื่อช่วยควบคุมการทำงานของแอร์ให้ใช้ไฟลดน้อยลง แต่ยังคงความเย็นอย่างต่อเนื่อง
การปิดประตูหน้าต่างให้สนิทก็มีผลต่อความเย็นภายในห้อง เพราะหากมีช่องลมรั่ว แอร์จะทำงานหนักขึ้นและเปลืองไฟมากขึ้นเช่นกัน เมื่อไม่ได้ใช้งานแอร์เป็นเวลานาน หรือช่วงเวลานอน ควรตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้า เพื่อลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น อีกจุดสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือการทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์เป็นประจำ เนื่องจากฝุ่นที่สะสมจะทำให้ลมไหลเวียนไม่ดี แอร์ทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น รวมถึงการเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณา แอร์ที่มีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่เกินกว่าพื้นที่จะทำให้ประสิทธิภาพแอร์ลดลงและกินไฟโดยไม่จำเป็น
โหมดการทำงานในเครื่องปรับอากาศไม่ได้มีไว้แค่ปรับอุณหภูมิเพียงเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ สถานการณ์ และความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละช่วงเวลา หากเลือกใช้โหมดต่าง ๆ ของแอร์อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มความสบาย ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า และยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โหมดนี้เป็นโหมดแอร์พื้นฐานที่ใช้ในการทำความเย็น โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งอุณหภูมิที่ต้องการได้เอง เหมาะสำหรับช่วงที่อากาศร้อนจัด ต้องการความเย็นอย่างรวดเร็ว
แอร์โหมด Dry เหมาะสำหรับวันที่ฝนตกหรืออากาศอบอ้าวแต่ไม่ร้อนจัด ช่วยลดระดับความชื้นในห้อง ทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้น และยังประหยัดไฟมากกว่าโหมด Cool
เป็นการเป่าลมธรรมดาโดยไม่เปิดระบบทำความเย็น ช่วยประหยัดพลังงาน เหมาะกับช่วงอากาศไม่ร้อนมาก หรือใช้ระบายอากาศภายในห้อง
แอร์ระบบนี้จะเลือกโหมดการทำงานให้อัตโนมัติตามอุณหภูมิภายในห้อง เช่น ถ้าห้องร้อนจะเปลี่ยนเป็น Cool หรือ Dry โดยไม่ต้องตั้งค่าเอง ใช้งานง่ายและสะดวก
เหมาะสำหรับเวลานอน เพราะแอร์จะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นเล็กน้อยตามระยะเวลา ช่วยให้ไม่หนาวเกินไปตอนกลางคืนและช่วยประหยัดไฟมากขึ้น
ช่วยควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์และพัดลมให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด โดยยังคงให้ความเย็นอย่างเหมาะสม เหมาะสำหรับการเปิดใช้งานในช่วงที่ต้องการลดค่าไฟ
หากกำลังมองหาแอร์ใหม่ในปี 2025 คำถามที่ควรคิดไม่ใช่เพียงแค่รุ่นไหนเย็นเร็วหรือราคาคุ้มค่า แต่ควรศึกษาว่าเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟได้จริง เพราะการประหยัดพลังงานเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกเครื่องที่เหมาะสมไปจนถึงขั้นตอนการใช้งานจริง แอร์ที่ดีและประหยัดควรตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งาน ประสิทธิภาพการทำความเย็น และความคุ้มค่าด้านพลังงานในระยะยาว
การเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ หากเลือกแอร์ BTU น้อยเกินไป เครื่องจะทำงานหนักและกินไฟมาก ถ้าเลือก BTU มากเกินไปส่งผลให้เปลืองไฟโดยใช่เหตุ ควรคำนวณตามพื้นที่ห้องเพื่อให้แอร์ทำงานได้พอดี
ในปี 2025 ให้เลือกซื้อแอร์มีฉลากเบอร์ 5 ที่ระบุจำนวนดาว ยิ่งมีดาวมาก ยิ่งแสดงว่าเครื่องใช้พลังงานน้อยแต่ให้ความเย็นคงที่
แอร์ Inverter ช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานคงที่ ไม่เร่งการทำงานหรือตัดบ่อย จึงประหยัดไฟและเย็นสม่ำเสมอ ตอบโจทย์การเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟอย่างแท้จริง
ค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) ยิ่งสูง แสดงว่าแอร์ยิ่งมีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟ แนะนำให้เลือกแอร์ที่มีค่า SEER 15 ขึ้นไป
เช่น Eco Mode, Sleep Mode หรือระบบอัตโนมัติที่ปรับอุณหภูมิตามสภาพห้อง ช่วยควบคุมการเปิดแอร์ให้ประหยัดพลังงานได้อย่างเหมาะสม
รุ่นที่มีระบบกรองฝุ่น PM2.5 หรือ UV ช่วยให้เปิดแอร์และฟอกอากาศไปพร้อมกัน ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและอุปกรณ์แยกต่างหาก
การดูแลแอร์ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลาช่วยให้ประหยัดพลังงานได้จริง เพราะแอร์ที่สะอาดและมีระบบทำงานสมบูรณ์มักกินไฟน้อยกว่าเแอร์ที่เสื่อมสภาพ
การตั้งเวลาเปิดปิดแอร์ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยปรับแอร์ให้ประหยัดไฟได้อย่างเห็นผล โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่ไม่ได้อยู่บ้าน การตั้งเวลาเปิดล่วงหน้าจะช่วยให้ห้องเย็นทันใช้งานโดยไม่ต้องเร่งอุณหภูมิต่ำเกินไป ซึ่งจะช่วยลดภาระของคอมเพรสเซอร์ ส่วนการตั้งเวลาปิดจะช่วยตัดการทำงานของแอร์เมื่อไม่จำเป็น เช่น ตอนหลับลึก หรือออกจากบ้านไปแล้วแต่ลืมปิดแอร์ ระบบตั้งเวลาเหล่านี้ช่วยให้แอร์ทำงานสั้นลงและลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง
แอร์บางรุ่นในปี 2025 ยังมาพร้อมกับระบบตั้งเวลาผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่จะช่วยให้สามารถควบคุมการเปิดปิดจากระยะไกลได้ถึงแม้จะไม่อยู่บ้าน เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน และช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น เพราะสามารถกำหนดช่วงเวลาแอร์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างแม่นยำ
การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศไม่ใช่แค่เรื่องของความสะอาดหรือยืดอายุการใช้งานเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดพลังงานด้วย หลายคนพยายามเปิดแอร์อุณหภูมิสูงเพื่อประหยัดไฟ แต่ลืมไปว่าหากแอร์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ แม้จะตั้งอุณหภูมิอย่างประหยัดก็ยังเปลืองไฟอยู่เช่นเคย เพราะฉะนั้น หากอยากเปิดแอร์แล้วประหยัดจริง ควรเริ่มจากการดูแลแอร์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ฝุ่นที่อุดตันในแผ่นกรองจะทำให้ลมผ่านได้น้อยลง แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น ควรล้างอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
น้ำยาแอร์ที่ลดลงหรือคอยล์เย็นสกปรกจะทำให้แอร์ทำความเย็นช้าลง แนะนำให้ช่างมืออาชีพมาตรวจสภาพระบบและเติมน้ำยาแอร์ตามความจำเป็น
ช่องลมที่ไม่โล่ง มีสิ่งของกีดขวางจะลดประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ แอร์เย็นไม่ทั่วถึง ทำให้ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำลง ส่งผลให้เปลืองไฟมากขึ้น
คอยล์ร้อนคือจุดระบายความร้อนของแอร์ หากมีฝุ่นหรือเศษใบไม้เกาะ จะทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี เครื่องทำงานหนักและสิ้นเปลืองพลังงาน
ท่อแอร์ที่มีฉนวนหุ้มเสื่อมสภาพจะทำให้เกิดการสูญเสียความเย็น แอร์ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
หากถามว่าเปิดแอร์กี่องศาประหยัดไฟ คำตอบที่ดีที่สุดคือประมาณ 25–27 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่เครื่องทำงานสบาย เย็นพอดี และประหยัดไฟมากที่สุด
เปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟเป็นคำถามที่ผู้ใช้งานแอร์หลายคนอยากรู้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่ค่าไฟพุ่งสูงขึ้น การตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมที่ประมาณ 25–27 องศาเซลเซียส การเปิดพัดลมร่วมด้วย และการใช้โหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ได้อย่างมาก นอกจากนี้การดูแลแอร์ให้สะอาดและเลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้องก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดไฟได้จริงในระยะยาว
การเปิดแอร์พร้อมพัดลมช่วยลดค่าไฟได้จริง เพราะพัดลมช่วยกระจายความเย็นให้ทั่วห้องเร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิแอร์ต่ำ แอร์จึงทำงานน้อยลงและใช้พลังงานน้อย ช่วยประหยัดไฟได้โดยไม่ลดความเย็นสบาย
การใช้แอร์แบบไม่ให้ค่าไฟพุ่งควรเริ่มจากการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น 25–27 องศาเซลเซียส ร่วมกับการเปิดพัดลมเพื่อกระจายความเย็น การเปิดแอร์กี่ชั่วโมง ประหยัดไฟนั้นขึ้นอยู่กับขนาดห้องและอุณหภูมิภายนอก โดยทั่วไปควรตั้งเวลาเปิดปิดให้เหมาะสม หมั่นดูแลแอร์ให้สะอาดและมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
การตั้งเวลาเปิด/ปิดแอร์อัตโนมัติช่วยควบคุมพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกำหนดช่วงเวลาแอร์ให้ทำงานตรงกับพฤติกรรมการใช้งานจริง เช่น เปิดล่วงหน้าก่อนถึงบ้าน หรือปิดแอร์ในช่วงดึกเมื่ออากาศเย็นเพิ่มขึ้น วิธีนี้ช่วยลดภาระการทำงานของแอร์และหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น ส่งผลให้ค่าไฟลดลงอย่างชัดเจน
ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิช่วง 25-27 องศาเซลเซียส
แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานได้จริง เพราะผ่านเกณฑ์ตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานจากการทดสอบมาตรฐาน โดยเฉพาะฉลากเบอร์ 5 รุ่นใหม่ที่มีการระบุจำนวนดาว ยิ่งดาวมากแสดงว่าใช้ไฟน้อยลงในขณะที่ให้ความเย็นได้ดีเท่าเดิม ทำให้ผู้ใช้งานลดค่าไฟได้ในระยะยาว
บริษัท โมบิส โซลูชั่น จำกัด
292/6 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม
กรุงเทพมหานคร 10240
ติดต่อเรา
Copyright © 2025 Mobiz Solution Company Limited. All rights reserved.